เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [17. จัตตาลีสนิบาต] 3. อลัมพุสาชาดก (523)
(พระนางอลัมพุสาได้ฟังดังนั้นแล้ว จึงกราบทูลว่า)
[103] หม่อมฉันถูกพระเทวราชทรงใช้จะไม่ทำก็ไม่ได้
แต่หม่อมฉันหวั่นเกรงการที่จะประเล้าประโลมให้ดาบสนั้นยินดี
เพราะท่านเป็นพราหมณ์ มีเดชสูงส่ง
[104] ชนทั้งหลายประเล้าประโลมฤๅษีให้ยินดีแล้วตกนรก
ถึงสังสารวัฏเพราะความงมงายมีจำนวนมิใช่น้อย
เพราะเหตุนั้น หม่อมฉันจึงขนพองสยองเกล้า
(พระศาสดาตรัสว่า)
[105] อลัมพุสา มิสสาเทพอัปสร ผู้มีวรรณะน่าใคร่
ปรารถนาเพื่อจะให้อิสิสิงคดาบสคลุกเคล้าระคนด้วยกิเลส
ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้วก็หลีกไป
[106] ก็อลัมพุสาเทพอัปสรนั้นได้ลงสู่ป่าที่อิสิสิงคดาบสรักษา
ซึ่งดารดาษด้วยเถาตำลึงสุกมีประมาณกึ่งโยชน์โดยรอบนั้น
[107] นางเข้าไปหาอิสิสิงคดาบสผู้กำลังปัดกวาดโรงไฟแต่เช้าตรู่
ก่อนเวลาอาหารเช้า ใกล้เวลาอาทิตย์อุทัย
(ลำดับนั้น ดาบสถามนางว่า)
[108] เธอเป็นใครหนอ
รัศมีช่างงามผ่องใสดังสายฟ้า ประดุจดาวประกายพรึก
ประดับกำไลมืออันวิจิตร สวมใส่ต่างหูแก้วมณี
[109] มีประกายดุจแสงอาทิตย์ ร่างกายมีกลิ่นหอมด้วยจันทน์เหลือง
ลำขากลมกลึงสวยงาม มีมายามากมาย
กำลังสาวแรกรุ่น น่าทัศนาเชยชม
[110] เท้าทั้ง 2 ของเธออ่อนละมุน สะอาดหมดจด ไม่แหว่งเว้า
ตั้งลงเรียบเสมอด้วยดี ทุกย่างก้าวของเธอน่ารักใคร่
ดึงใจอาตมาให้วาบหวาม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :613 }